29 June 2008

howto: ทำ ringtone ของตัวเองด้วย Audacity


Audacity เป็นโปรแกรมสำหรับตัดต่อไฟล์เสียง ซึ่งสามารถใช้ตัดต่อ mp3 ได้ด้วย แต่ในตอนที่ลงโปรแกมเสร็จใหม่ๆจะอ่าน mp3 ได้อย่างเดียว เขียนไม่ได้ ถ้าจะให้เขียนได้ต้องลง Lame mp3 encoder ด้วย การลงก็ unzip ธรรมดา แล้วเซฟต์ไว้ที่ folder ใหนก็ได้ แต่ต้องจำ folder นั้นไว้ด้วย เพราะต้องใช้ทีหลัง

การตัดต่อ ringtone ก็ไม่ยาก ขั้นแรกก็เปิดไฟล์ที่จะเอามาทำ ringtone ขึ้นมาก่อน ลองกด Play ดูก็ดี จะได้ไม่ผิดเพลง




ขั้นต่อมาก็เลือกเอาเฉพาะส่วนของ mp3 ที่เอาจะเอามาทำเป็น ringtone
ถ้าเรากด play ตอนนี้ก็จะได้ยินเฉพาะส่วนที่เราเลือก ก็เลือกจนกว่าจะตัดท่อนเพลงได้พอดี






พอเราพอใจแล้วก็ copy ซะ จะ Ctrl-C หรือไปที่เมนู edit->copy ก็ำได้ แล้วก็ New อันใหม่ขึ้นมา แล้วก็ paste ที่เรา copy ไว้ลงไป ลองกด play ดูว่าใช่ที่เราต้องการจริงๆหรือเปล่า

จากนั้นเลือก File->Export As MP3. ตอนที่เลือกเมนูนี้ครั้งแรกมันจะถามว่าเรา unzip Lame ไว้ที่ใหน เราก็บอกไป (ยังจำได้หรือเปล่าว่า unzip Lame ไว้ที่ใหน) เท่านี้ก็เรียบร้อย ได้ ringtone โดยไม่ต้องไปโหลดที่ใหน

ถ้าใครอยากทำ effect แปลกๆ ก็ลองกดเมนู effect ได้ มีลบเสียงคนร้อง ลดเสียงรบกวน หรือทำ fading อะไรประมาณนี้

28 June 2008

What is R?


พูดถึง Octave แล้วก็ต้องพูดถึง R ด้วย

ถ้า Octave เป็นเวอร์ชั่นฟรีของ Mathlab แล้วละก็ R ก็คงเหมือนวอร์ชั่นฟรีของ S-Plus ได้มั้ง

ทั้ง S-Plus และ R เป็นโปรแกรมคำนวณทางด้านสถิติ ผมเองก็ไม่ถนัดด้านนี้เท่าไหร่ เพราะฉนั้นใครสนใจก็ไปดูต่อได้ที่เวปไซต์ของ R ละกันครับ

(image (C) R Foundation, from http://www.r-project.org)

Octave ของเล่นคนเก่งเลข


คนชอบเลขคงรู้จักโปรแกรม Mathlab กันบ้าง ตอนเรียนหนังสือผมก็ต้องใช้เหมือนกัน ที่มหาลัยเขามีให้ใช้ แต่ถ้าใช้ที่บ้านผมใช้ Octave แทน

Octave เป็นโปรแกรมเหมือนๆกับ Mathlab และก็เข้ากันได้กับ Mathlab ด้วย (แต่ไม่ 100% แค่เกือบๆ) สคริปต์ส่วนใหญ่ที่เราเขียนสำหรับ Mathlab สามารถนำมาใช้ใน Octave ได้เลย แต่ถ้าเราใช้คำสั่งแปลกๆในสคริปต์เราอาจจะต้องแก้ไขเล็กน้อย


รูปที่เห็นข้างบนได้มาจากคำสั่งนี้ (ได้มาจาก website ที่ให้ซักที่ ไม่ได้จดไว้)

>> [x,y] = meshgrid([-12 : 1/2 : +12]);
>> z = sin(sqrt(x .* x + y .* y)) ./ sqrt(x .* x + y .* y);
>> mesh(x,y,z);


ถ้าใครใช้ Mathlab อยู่แล้วก็ลองเล่นดูนะครับ หรือใครเริ่มสนใจก็หาอ่านการใช้งานได้โดย google เอา โดยใช้คำว่า 'octave tutorial'

27 June 2008

ทำ bitmap tracing ด้วย Inkscape


Inkscape เป็นโปรแกรม vector graphic design คล้ายๆ Coral Draw หรือ Illustrator
ความสามารถหนึ่งที่ผมชอบก็ึคือการแปลง bitmap graphic เป็น vector graphic ข้อดีของ vector graphic ก็คือสามารถย่อขยายหรือหมุนได้โดยไม่เสียรายละเอียด





ขั้นแรกก็เปิดไฟล์รูปภาพ bitmap ขึ้นมาก่อน แล้วก็คลิกที่รูปภาพนั้นหนึ่งทีเพื่อเลือกรูปนั้น รูป bitmap จะเป็น jpg, png, bmp หรืออื่นๆก็ได้





จากนั้นก็เลือกเมนู path แล้วเลือก Trace Bitmap





ก็จะเจอ dialog แบบนี้ ก่อนอื่นกด update ก่อน ถ้าไม่ชอบแนวขาวดำ ก็เลือกใช้ วิธีการ tracing แบบอื่น พอพอใจแล้วก็กด OK แล้วก็ปิด dialog นี้ได้





ก็จะได้รูป vector (แต่ตอนแรกรูป bitmap กับ vector จะซ้อนกันอยู่ ต้องใช้ใช้ mouse จับแล้วเลื่อนออกมาก่อน)




จากนั้นจะย่อ ขยาย เปลี่ยนสีได้ตามใจ โดยไม่เสียรายละเอียด

25 June 2008

การบอก Secured Website ใน Address bar แบบใหม่ของ Firefox 3


ถ้าเราใช้ Firefox 2 เวลาที่เราเข้า website ที่มีการเข้าระหัสด้วย SSL (ที่ขึ้นด้วย https://) จะเห็นว่า address bar จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่ใน Firefox 3 จะไม่ใช้สีเหลืองแล้ว แต่จะใช้สีน้ำเงินหรือสีเขียวแทน อย่างที่เห็นในรูป แล้วสองสีนี้มันต่างกันทำไม แล้วทำไมไม่ใช้สีเหลืองเหมือนเดิม?


จาก release note ของ Firefox 3 บอกไว้ว่า "(yellow was judged to no longer be a good color as Internet Explorer 7 uses it to mean a suspected phishing website)" แปลง่ายๆก็คือที่ไม่ใช้สีเหลืองอีกต่อไปก็เพราะ IE7 ใช้สีเหลืองเพื่อแสดงเวปไซต์หลอกลวง หลอกโขมย password อะไรพวกนั้น คงกลัวผู้ใช้ที่ย้ายมาจาก IE จะสับสนมั้ง เพราะงั้นพอเราเข้าไซต์แบบ https ก็จะเห็น address bar แบบใหม่


แบบแรกเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งใช้กับเวปที่ใช้ Validation certificate แบบเก่า


พอกดเข้าไปก็จะเห็นรายละเอียดว่าเวปไซต์นี้รับรองโดยใคร อะไรพวกนั้น



แต่ถ้าเวปไซต์นั้นใช้ Validation certificate แบบใหม่ที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น ก็จะเห็นเป็นสีเขียว


23 June 2008

defrag แบบฉลาดๆด้วย jkdefrag

เคย defrag harddrive กันหรือเปล่า? ถ้าไม่เคยก็ลองดู เครื่องอาจจะเร็วขึ้นหน่อยนึง หลักการคร่าวๆของการทำ defrag ก็คือเอาข้อมูลของไฟล์เดียวกันมาอยู่ด้วยกัน คือบน harddrive เนี่ย เมื่อใช้ไปสักพักหนึ่ง พื้นที่ว่างมันจะไม่ต่อกันเป็นแผ่นเดียวไง เหมือนห้องนอน ตอนแรกก็เรียบร้อยดี อยู่ไปพักนึงรกจำไม่ได้ คราวนี้สมมุติว่าเราต้องเขียนไฟล์ใหญ่ๆลง harddrive แต่ harddrive ของเราไม่มีช่องว่างที่ใหญ่พอสำหรับที่จะวางไฟล์นั้นไว้ด้วยกัน ตัว Windows ก็เลยต้องแตกไฟล์นั้นเป็นส่วนๆแล้วเอาแต่ละส่วนไปเขียนในช่องว่างที่มี พอเราจะอ่านไฟล์นั้น harddrive ก็ต้องวิ่งไปตรงนั้นทีตรงนี้ที ก็เลยช้า การทำ defrag ก็เลยช่วยในส่วนนี้ได้

Windows เองก็มีโปรแกรม defrag มาให้ แต่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ สู้ JKDefrag ไม่ได้ หน้าตาไม่สวย แต่ฉลาดนะขอบอก


โปรแกรมที่ใช้
JKDefrag (download)

ที่ JkDefrag ฉลาดก็เพราะมันจะพยายามเอาไฟล์เล็กๆ ซึ่งมักโดนใช้บ่อยมาอยู่ส่วนต้นๆของพื้นที่บน harddrive ส่วนไฟล์ใหญ่ๆเอาไว้หลังๆ ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็คลิกที่ JkDefrag.exe เลย ก็จะเจอหน้าตาแบบนี้



แต่ถ้าให้ดี การทำ defrag ด้วย JkDefrag ครั้งแรกควรใช้โหมด disk optimize ผ่านทาง command line เพื่อจะได้เลือกรูปแบบการเรียงไฟล์ให้เหมาะกับเครื่องเราที่สุด
ตัวเลือก command line ทั้งหมดอยู่ใน document ที่มากับ JkDefrag แล้ว เพราะฉนั้นผมจะพูดถึงอันที่ผมใช้บ่อยๆละกัน


ขั้นตอน

ขั้นแรกก็เปิด cmd.exe (start->run, พิมพ์ cmd แล้ว enter) จากนั้นก็ cd ไปที่ folder ของ JkDefrag แล้วก็รันแบบนี้

JkDefrag.exe -a 7 c: 


ตัว -a 7 คือใช้ optimize โหมดเบอร์ 7 เบอร์อื่นๆก็มีความหมายตามข้างล่างนี้ เลือกใช้ตามความเหมาะสม

1 = Analyze, do not defragment and do not optimize.
2 = Defragment only, do not optimize.
3 = Defragment and fast optimize [recommended].
5 = Force together.
6 = Move to end of disk.
7 = Optimize by sorting all files by name (folder + filename).
8 = Optimize by sorting all files by size (smallest first).
9 = Optimize by sorting all files by last access (newest first).
10 = Optimize by sorting all files by last change (oldest first).
11 = Optimize by sorting all files by creation time (oldest first).


เมื่อเลือกแล้วก็รอ รอ รอไปเรื่อยๆ ถ้า harddrive เละมากก็ใช้เวลาเป็นวันได้เหมือนกัน แต่ระหว่างนั้นก็ใช้เครื่องได้อยู่ ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเสร็จแล้วเห็นผลจริงๆนะ เครื่องที่ทำงานผม boot เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ outlook จากที่เคยใช้เวลาเป็นนาทีก็เร็วขึ้นเยอะเหมือนกัน แต่ผมทำงานด้วยสปีดคงที่เหมือนเดิม อิอิ

หลังจากทำ optimize defrag แล้วครั้งต่อๆไปก็ไม่ต้อง optimize บ่อยๆก็ได้ ใช้ -a 3 ก็พอ ปกติผมจะใช้โหมด optimize ประมาณ 3 เดือนครั้ง ไม่มากกว่านั้น ไม่ชอบรอ :-)

สร้างไฟล์ PDF จากทุกโปรแกรมด้วย PDFcreator

เคยบ้างไม๊ครับที่ต้องส่งไฟล์เอกสารให้คนอื่น แต่ไม่รู้จะส่งเป็นไฟล์แบบใหนดี คราวหน้าสองส่งเป็น pdf ดีกว่าครับ ดูโปรดี การทำ pdf ก็ไม่ยาก มีหลายวิธี ตั้งแต่แพงถึงถูก แต่ที่ผมใช้เป็นโปรแกรม open source ชื่อ PDFCreator



โปรแกรมนี้สำหรับคนที่ใช้ Windows นะครับ (ชาว Linux ปรินต์เป็น postscript แล้วใช้ ps2pdf แปลงเป็น pdf ได้เลย)


โปรแกรมที่ใช้
PDFCreator (download)

ขั้นตอน

ก็ install ก่อนไง พอเสร็จแล้วเราก็จะได้ virtual printer มาอันนึง ชื่อว่า PDFCreator เวลาจะสร้าง pdf ก็แค่เลืืือก print แล้วก็เลือก printer ตัวนี้ เพราะฉนั้นเราก็เลยสามารถสร้าง pdf ได้จากทุกโปรแกรมที่ปรินต์ได้






พอสั่งปรินต์ก็จะมีำ dialog นี้โผล่ขึ้นมา แก้ไขค่าต่างๆตามต้องการครับ แล้วคลิกที่ save



ตั้งชื่อไฟล์ pdf ครับ แล้วก็ save ซะ



รอแปปนึง พอเสร็จแล้ว PDFCreator ก็จะเปิดไฟล์ pdf ของคุณให้ดูทันทีครับ ใช้ภาษาไทยได้ไม่มีปัญหา ลองดูนะครับ

21 June 2008

ออกแบบและ render ด้วย SketchUp and Kerkythea





ย้ายไปอยู่ที่ busy.in.th แล้วครับ



โปรแกรมที่ใช้

Google SketchUp (download)
SketchUp เป็นโปรแกรมออกแบบ 3D ที่ใช้ง่ายมาก แต่ก่อนราคาประมาณ $400 แต่พอ Google ซื้อมา ก็มีเวอร์ชั่นฟรีออกมา โดยเวอชั่นนี้มีลูกเล่นน้อยลง แต่ผมว่าก็เพียงพอสำหรับคนทั่วไปนะ การใช้งาน SketchUp จะต่างจากโปรแกรมออกแบบ 3D อื่นๆเช่น 3Dmax หรือแม้แต่ Blender (ซึ่งก็ฟรีเหมือนกัน) อยู่มาก การใช้ SketchUp จะเริ่มจากวาดรูปสองมิติแล้วก็ "ดึง" ขึ้นมาให้เป็นสามมิติ


Kerkythea (download)
โปรแกรมนี้เป็น render engine ครับ ถ้าจะใช้กับ SketchUp ก็ต้องลง SU4KT (download) ก่อน ผมชอบ Kerkythea ตรงที่มี material editor ที่ใช้งานค่อนข้างง่าย แถมมี material ให้ดาวน์โหลดได้ด้วย



ขั้นตอนก็เริ่มจากออกแบบใน SketchUp ผมชอบออกแบบโดยร่างแบบคร่าวๆก่อนแล้วก็ค่อยๆรายละเอียดเข้าไปทีละนิด ดูตัวอย่างแบบบ้านนะครับ


แบบคร่าวๆของบ้านหลังนี้ มีกล่องๆกับแผ่นแบนๆ ไม่มีหลังคาเพราะขี้เกียจ :-)


เริ่มใส่รายละเอียด เจาะช่องประตูหน้าต่าง




ใส่กระจกหน้าต่างและประตูซะ ดูยากหน่อย ลองคลิกเพื่อดูภาพใหญ่นะครับ



เพิ่มรั้วและรายละเอียดอื่นๆ ผมชอบหน้าต่างใหญ่ๆแล้วมีไม้ระแนงกันตาแบบนี้แหละ เรียบๆดี แต่ไม่น่าเบื่อเกินไป



จากนั้นก็ประดับด้วยต้นไม้ตามใจชอบ แต่ไม่ได้ทำต้นไม้เองหรอกนะครับ ผมดาวน์โหลดมาจาก Google 3D warehouse รวมทั้ง Honda Jazz คันนั้นก็ดาวน์โหลดมาเหมือนกัน พอได้มาก็เอามาแต่งเล็กน้อย ย่อบ้างขยายบ้าง เปลี่ยนสีหน่อย แต่อย่าดาวน์โหลดมาใส่เยอะเกินไปนะครับ เดี๋ยวเครื่องอืด



แล้วก็เลือกระบายสี (เรียกว่า texture ละกัน)ตามใจชอบ ภาพที่ได้จะเหมือนจริงหรือเปล่าก็อยู่ที่ texture นี่แหละ (บวกกับการจัดแสง แต่กรณีนี้เรามีแต่ด้วงอาทิตย์อย่างเดียว เอาง่ายเข้าว่า) ผมทำอย่างคร่าวๆ ไม่ลงตัวเท่าไหร่ แต่ผมก็พอใจแล้วนะ ลองดาวน์โหลด model ของบ้านหลังนี้ แล้วลองใช้ texture อื่นๆดูนะครับ



สุดท้ายก็จัดมุมกล้องให้สวยงาม เพราะการจัดมุมกล้องใน SketchUp งายกว่าทำใน Kerkythea เยอะ




เมื่อเสร็จจาก SketchUp ก็ export model ของเรามาที่ Kerkythea โดยใช้ SU4KT (ถ้ายังไม่ได้ลงก็ลงก่อนนะ) พอลง SU4KT แล้วมันก็ไปอยู่ที่เมนู plugins ของ SketchUp เราก็แค่เลือกมัน เลือก export everything (models, lights, camera, ฯลฯ) พอ export เสร็จก็จะถามเราว่าจะเป็ด Kerkythea เลยมั้ย ก็เปิดเลย หรือจะทำแบบผมคือเอาไปเปิดใน Linux ก็ได้ เพราะ Kerkythea มีทั้งบน Windows, Linux, และ Mac (แต่ SketchUp ไม่มีบน Linux แต่ก็ใช้ผ่าน wine ได้เหมือนกัน ถ้าสนใจลอง Google ดู)

เรายังปรับแต่งมุมกล้องใน Keykythea ได้อีกตามความเหมาะสม แล้วก็ยังใส่ model เพิ่มเข้าไปได้ด้วย ผมใส่ต้นหญ้าเข้าไป แล้วใช้ Instance Brush ทำให้กลายเป็นสนามหญ้า(ออกมาดูรกๆไปหน่อย เหมือนเจ้าของลืมตัด แต่ขี้เกียจแก้แล้ว ช่างมันละกัน) เอาไว้เขียนวิธีใช้ Instance Brush อีกทีละกันครับ



เติมท้องฟ้าซะ รูปท้องฟ้าก็ดาวน์โหลดมาจากเวปของ Kerkythea ครับ พอดาวน์โหลดท้องฟ้าแล้วก็อย่าลืมเอา texture มาด้วยนะครับ (บนKerkythea เรียกว่าmaterial library) เอามาเยอะๆเลยก็ได้




อย่าลืมกำหนดค่าให้กับ texture นะครับ สำคัญมาก อย่างในรูปผมก็ให้สีของรถสะท้อนแสงนิดๆ ลองเล่นๆดู หรือจะอ่านวิธีใช้ใน Kerkythea Getting Start ก็ดีครับ
ถ้าดาวน์โหลด material library มาไว้แล้วก็ลองใช้ดูก็ได้ครับ



จากนั้นก็สั่ง render ความเร็วในการ render ขิ้ออยู่กับขนาดและความซับซ้อนของภาพ และก็ render algorithm ที่ใช้ด้วย เพราะงั้นก็ควรเริ่มจาก render ภาพเล็กๆก่อนและใข้ algorithm ที่เร็วๆ (เช่น Photon Map -Quick) เมื่อพอใจแล้วก็ค่อยสั่งให้ render ภาพใหญ่ๆโดยใช้ algorithm ที่ให้ความละเอียดสูงๆ ที่เหลือก็รอ แล้วก็ชื่นชมผลงานของตนเอง ใครทำภาพอะไรเสร็จอย่าลืมเอามาอวดในคอมเมนต์นะครับ :-)




Download



Post ที่เกี่ยวข้อง