30 August 2008

Text Editor Week: JOE


ใครจำ word star หรือ turbo pascal เวอร์ชั่นเก่าๆ ประมาณเวอร์ชั่น 4 ได้บ้าง สมัยนั้นไม่มี mouse แล้วก็ไม่มี graphic GUI ด้วย text editor ตอนนั้นก็เป็น text mode และใช้ keyboard ในการควบคุมทั้งหมด

JOE (Joe's Own Editor) ตัวนี้ให้อารมณ์เหมือนเก่าโปรแกรมเก่าๆพวกนั้นเลย ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะโปรแกรมนี้มีมาตั้งแต่ปี 1988 หรือ 20 ปีมาแล้ว การใช้งาน JOE จะเหมือนกับการใช้ Word Star ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิดไฟล์ การ copy และ paste ก็จะมี shortcut เหมือนกันเกือบหมด

ข้อดีของโปรแกรมนี้คือมีขนาดเล็ก telnet เข้าไปใน server โดยเน็ตช้าๆก็ยังใช้โปรแกรมนี้ได้ ใช้ง่ายกว่า vi สำหรับคนที่ไม่คล่อง และมีความสามารถมากกว่า pico และก็มีใช้ทั้งบน Unix และ Windows ครับ

29 August 2008

Text Editor Week: Notepad++


เคยเห็นคนพูดถึง Notepad++ เยอะ เลยเอามาลงไว้เป็นอีกทางเลือก ความสามารถของโปรแกรมนี้ก็คลายๆกับโปรแกรมก่อนหน้านี้ แต่ที่น่าสนใจก็มีการซูมเข้าออกซึ่งอาจจะมีประโยชน์ในบางกรณี อีกอย่างคือโปรแกรมนี้มี code completion ด้วย (เอาใจโปรแกรมเมอร์อีกละ) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่โปรแกรมอื่นๆหลายๆโปรแกรมไม่มี

โปรแกรมนี้เป็น Open source ครับ

28 August 2008

IE8 Beta 2 ลองเล่นแล้วบอกด้วย


ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ
ผมเองยังไม่ได้ลอง ขนาด IE7 ยังไม่ค่อยได้ใช้เลย ที่บ้านใช้ FF ที่ทำงานเขาให้ใช้ IE6 อยู่

Text Editor Week: Cream



เอาใจคนใช้ vi ครับ Cream เป็น text editor สำหรับ windows ที่มีพื้นฐานมาจาก vim
การใช้งานก็ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ทั่วๆไป ใช mouse ได้ ใช้ปุ่มลูกศรได้เป็นต้น แต่สำหรับ vi guru ก็ยังใช้งานทุกอย่าง ทุกคำสั่งได้จาก keyboard เหมือนเดิม

จุดเด่นที่ทำให้ Cream ต่างจากโปรแกรมอื่นๆก็คือมันสามารถเปิดไฟล์ใหญ่มากๆได้ ประมาณว่า ถ้าคุณใส่ไฟล์นั้นใน harddrive คุณได้ Cream ก็เปิดอ่านและเขียนได้ ส่วนความสามารถอื่นๆเขียนไม่หมดครับ อ่านเองละกัน ยาวหลายหน้าเลย

27 August 2008

Text Editor Week: SPE



โปรแกรม text editor สามตัวแรกที่พูดถึงก่อนหน้านี้จะเป็นลักษณะที่สามารถเอาไว้ใช้กับงานทั่วๆไป เขียนโปรแกรมก็ได้ แก้ไขไฟล์ config ก็ได้ แต่สำหรับโปรแกรมที่จะแนะนำวันนี้ (SPE) จัดอยู่ในกลุ่ม domain-specific text editor หรือพูดอีกอย่างว่าถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น

จุดประสงค์ของ SPE คือการใช้งานเพื่อเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python

เพราะว่าถูกออกแบบมาเพื่อ Python มันก็เลยมีความสามารถที่รองรับภาษานี้เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน source code ที่เราเขียนแล้วไปสร้างเป็น UML ให้ (แต่ไม่สมบรูณ์นะ ต้องทำต่อเอง) หรือการทำ index เพื่อความง่ายในการหาชือตัวแปรหรือฟังชันก์ต่างๆ เป็นต้น เราสามารถสั่งรันโปรแกรมที่เราเขียนจากข้างใน SPE ได้เลยด้วย และนอกจากนี้ก็ยังสนับสนุนการใช้งานโปรแกรมภายนอกที่ช่วยในการเขียนโปรแกรมภาษา Python ด้วย เช่น GUI designer หรือ debugger เป็นต้น

จะว่าไปแล้ว SPE ก็เกือบๆจะเป็น IDE ได้ด้วยซ้ำ แต่เวลาใช้งานมันให้ความรู้่สึกว่าเป็น text editor มากกว่า(สำหรัยผมนะ) ก็เลยจัดว่าเป็น text editor ละกัน

การลง SPE จะยากนิดหน่อยตรงที่ตัว SPE เองถูกเขียนขึ้นด้วย Python เพราะฉนั้นก็ลง Python ก่อนนะครับ แล้วก็ตา่มด้วย WxPython ซึ่งเป็น GUI ตัวหนึ่งสำหรับ Python จากนั้นถึงจะลง SPE ได้

26 August 2008

Text Editor Week: jEdit



่ดูชื่อ jEdit คงเดาได้ว่าโปรแกรมนี้เขียนด้วย Java เพราะงั้นก็เลยมีฟังชั่นน์ช่วยในการเขียนโปรแกรม Java มากหน่อย แต่ตอนหลังๆเริ่มดัง การสนับสนุนภาษาอื่นๆก็ดีขึ้นมาก

editor ตัวนี้ถ้าเราไม่ปรับแต่งอะไรเลยก็ไม่ต่างจากตัวอื่นมากนัก เช่นมี undo/redo แบบไม่จำกัด, การแบ่งหน้าจอ, ฯลฯ แต่ข้อเด่นของโปรแกรมนี้คือสนับสนุนการใช้ plugin และมี plugin ให้ใช้มากกว่า 100 ตัว เช่นสำหรับทำ code completion หรือใช้อ่านและเขียนไฟล์ network เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้ plugin ได้จากตัวโปรแกรม jEdit ได้โดยตรงจากเมนู

เนื่องจากเป็นโปรแกรม java ก็ต้องดาว์นโหลด java runtime ก่อนนะครับ

25 August 2008

Text Editor Week: Crimson Editor



text editor ตัวที่สองที่จะแนะนำคือ Crimson Editor

โปรแกรมนี้เก่าแล้ว เวอร์ชั่นสุดท้ายออกมาเมื่อปี 2004 และกลายเป็น open source เมื่อปี 2006 แต่ถึงเก่าแต่ก็ยังใช้งานได้ดี และมีความสามารถหลากหลาย เช่น
  • เปิดหลายไฟล์ได้พร้อมกัน โดยใช้ tab เหมือน firefox
  • มี syntax highlighting ให้สำหรับโปรแกรมเมอร์ สนับสนุนมากกว่า 100 ภาษา และเราสามารถเพิ่มเองได้ด้วย
  • มี undo/redo ไม่จำกัด
  • มี project management โดยสามารถจัดรวมไฟล์หลายๆไฟล์เข้าเป็นโปรเจก
  • สนับสนุนการค้นหาและแทนที่โดยใช้ regular expression
  • สามารถตรวจคำผิด มี dictionary ที่จุมากกว่า 100000 คำ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะ
  • สนับสนุนการอ่านและเขียนไฟล์ผ่าน FTP
  • สนับสนุน UTF-8
  • และอื่นๆอีกมากครับ
โปรแกรมนี้ทำงานเร็วและขนาดไม่ใหญ่มากครับ ลองดูละกันว่าชอบหรือเปล่า

24 August 2008

text editor week: micro Emacs


โปรแกรมตัวแรกที่แนะนำ micro Emacs (ซึ่งอาจจะเป็นโปรแกรมที่ใช้ยากที่สุดใน 7 ตัว)

สาเหตุที่แนะนำโปรแกรมนี้เป็นตัวแรกก็เพราะเขาบอกกันว่า Linus Torvalds ใช้โปรแกรมตัวนี้ ผมเองชอบใช้ emacs ธรรมดามากว่าเพราะว่า replace text ของ emacs ธรรมดาทำงานดีกว่า แต่ข้อดีของ micro Emacs ก็คือมีขนาดเล็ก และมีให้ใช้ทั้งบน windows, linux, และอื่นๆ และที่สำคัญก็คือตัว emacs ธรรมดามีความสามารถมากไป ปกติแล้วเราไม่ต้องการขนาดนั้น อย่างเช่นผมใช้ emacs มาหลายปี ยังไม่เคยเขียน elisp เองเลยซักครั้งเดียว

นอกจากนี้ micro Emacs ยังใช้งานกับ mouse ได้ดีกว่า เพราะฉนั้นผู้ที่ใช้ windows อยู่อาจจะสามารถใช้โปรแกรมนี้ได้ง่ายกว่า emacs ธรรมดา แต่ก็สงใสว่าจะถ้าคนที่ไม่เคยใช้ emacs มาก่อน พอมาใช้ micor emacs (หรือ emacs ธรรมดาก็ตาม) แล้วจะยอมเปิดโปรแกรมนี้ใช้เป็นครั้งที่สองหรื่อเปล่า :-)

Text editor week : 24 - 30 สิงหาคม

ผมเคยใช้ text editor มาหลายโปรแกรม ทั้งบน windows และ Unix ก็เลยว่าจะเขียนถึงเสียหน่อย เพราะฉนั้นผมเลยขอประกาศว่าอาทิตย์นี้เป็น text editor week!

ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่จะแนะนำ text editor วันละตัวเป็นเวลา 7 วันเท่านั้นเอง อิอิ

23 August 2008

Xara Xtreme : อีกหนึ่งโปรแกรม vector drawing ที่น่าสนใจ


มีโปรแกรมวาดรูปแบบ vector มาให้ลองใช้ดูอีกแล้ว (ก่อนหน้านี้เคยพูดถึง Inkscape และ sk1 มาแล้ว) คราวนี้ถึงคิวของ xara xtreme บ้าง

ก่อนหน้านี้ xara xtreme เป็นโปรแกรมบน Windows เท่านั้น แล้วก็ closed source ด้วย แต่เมื่อปี 2006 ก็มีการปล่อย source code ออกมา ก็เลยมีเวอร์ชั่นบน Linux ตามมา ลองเข้าไปดูใน gallery ของโปรแกรมนี้ดูก่อนก้ได้ จะได้มีไอเดียว่ามันทำอะไรได้บ้าง บางรูปนี่สุดยอดดด

ลอง download ไปเล่นดูครับ ไม่ต้องเสียตังค์เพราะเป็น open source ... โปรแกรมที่แนะนำบน web นี้เป็นโปรแกรมฟรีแต่คุณภาพสูงทั้งหมดครับ

เกมส์ชกมวย ฉลองเหรียญทองที่สองของไทย

เย้อีก

Javascript ใน Firefox 3.1 จะเร็วขึ้นมากสุดถืง 40 เท่า


(image copyright arstechnica.com)



Firefox เวอร์ชั่นใหม่จะใช้ Javascript interpreter ตัวใหม่ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าตัวปัจจุบันมาก โดย interpreter ตัวนี้ใช้ optimizer แบบ tracing ร่วมกับ JIT (Just In Time compiler)

ผมเองคุ้นกับ JIT พอควรเพราะตอนเรียนหนังสือทำโปรเจกเรื่องนี้อยู่ แต่ tracing นี่ไม่แน่ใจ แต่จากประสบการณ์ของผมเอง ถ้าออกแบบดีๆการใช้ JIT ช่วยให้ interpreter เร็วขึ้นแน่ๆ ตอนนี้ถ้าใครใช้ Java หรือ .net อยู่ก็ใช้ JIT อยู่โดยไม่รู้ตัว เพราะ JIT ทำงานอยู่เบื้องหลัง คนใช้งานไม่จำเป็นต้องรู้

ลองไปดูรายละเอียดของ Javascript interpreter ตัวใหม่ได้ที่นี่ครับ

ที่มา slashdot.org

22 August 2008

musikCube ช่วยจัดการจัดเก็บ mp3 (และอื่นๆ)


musikCube เอาไว้ฟังเพลง และจัดการเพลงให้เป็นระบบ นอกจากนี้โปรแกรมนี้ก็จะยังคอยดูด้วยว่าเราชอบเพลงสไตล์ใหน แล้วก็จัดเพลงให้เราฟัง แถมยังช่วยในการย้ายเพลงระหว่าง mp3 player กับคอมพ์ด้วย

ทั้งหมดที่พูดมา แปลมาครับ ไม่เคยใช้เอง อิอิ

19 August 2008

howto: ทำรูป HDR (High Dynamic Range) กับ Qtpfsgui




ย้ายไปอยู่ที่ http://tmeta.com/show/7 แล้วครับ



HDR มาแรง แต่หนึ่งในโปรแกรมทำ HDR ที่ดีที่สุดกลับเป็นโปรแกรมชื่อแปลก แถมเป็น open source ด้วย มาลองดูวิธีทำกันครับ


ขั้นแรกก็ถ่ายรูปก่อน ถ่ายจากมุมเดียวกันหลายๆรูป โดยให้แต่ละรูปมีความสว่างไม่เท่ากัน ใครมี DSLR ก็ใช้ exposure bracket ให้เป็นประโยชน์ อย่างรูปข้างล่างผมก็ถ่ายที่ -1, 0, +1ev. ตอนถ่ายควรใช้ขาตั้งกล้องดีที่สุด แต่ถ้าไม่มีก็ทำตัวให้นิ่งที่สุดละกัน แต่ไม่ต้องเป็นกังวลมากนัก เพราะ Qtpfsgui เก่งครับ มันสามารถเลื่อนและหมุนภาพของเราให้ซ้อนทับกันให้เราได้ (โดยใช้ photo alignment code จาก Hugin ซึ่งเป็นโปรแกรมทำภาพ panorama ซึ่งจะเขียนถึงในวันข้างหน้ามั้ง)







ขั้นต่อมา่ก็ดาวน์โหลด Qtpfsgui ก่อน แล้ว install ให้เรียบร้อย พอเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะเห็น toolbar ที่เขียนว่า new hdr ก็กดซะ

หน้าต่างแบบนี้ก็จะเปิด เราก็เลือกรูปที่เราถ่ายมา อย่าลืมเลือก Auto Align Image นะครับ ไม่งั้นรูปจะซ้อนกันไม่สนิท



การ align จะใช้เวลาพักนึง ขึ้นกับขนาดและจำนวนรูปของเรา พอเสร็จแล้วมันก็จะแสดงผลของการ align อย่างที่เห็น ถ้าเราไม่พอใจผลที่ได้ก็แก้ไขได้โดยการใช้ปุ่มขึ้นลงซ้ายขวาสี่ปุ่มที่เห็นอยู่ทางด้านซ้ายของจอ เพื่อเลื่อนภาพให้ตรงกัน



เสร็จแล้วก็กด next ก็จะเจอหน้านี้ คำแนะนำที่เห็นบอกว่าให้เลือก profile1 เพราะโดยปกติจะให้ผลดีที่สุด แต่จะลองใช้ profile อื่นๆดูก็ได้ ผมเองก็ใช้แต่ profile1 นี่แหละ



เสร็จแล้วก็จะได้ hdr แต่ยังไม่เสร็จครับ เพราะจอของเราไม่สามารถแสดงสีที่มีอยู่ในรูปทั้งหมดได้ ถ้าจะแสดงบนหน้าจอก็ต้องทำ tone mapping ก่อน กดปุ่มบน toolbar เพื่อทำ tone mapping



โปรแกรมนี้มี algorithm ในการทำ tone mapping ให้ใช้หลายแบบ เลือกใช้ดูว่าแบบใหนให้ผลที่น่าพอใจสุด แล้วอย่าลืมเลือก "adjust level.." นะครับ ปรับให้พอใจ ผมจะชอบให้สีไม่เวอร์มากนัก แต่ถ้าอยากให้ให้สีเวอร์สุดๆแบบที่มักจะเห็นบนเวป (โดยเฉพาะบน flickr ... เต็มไปหมด)ก็เลือก algorithm แบบ Fattal แล้วปรับ level ให้แรงๆ



รูปที่ได้จาก Fattal ครับ สีเวอร์สุดๆ

15 August 2008

ไม่ใช่ SPSS ... PSPP ต่างหาก




เมือหลายอาทิตย์ก่อนเคยเขียนถึง R ซึ่งเป็นโปรแกรมคำนวณทางสถิติ (ที่คล้ายๆกับ SPLUS ซึ่งราคาหลายร้อยเหรียญ)
โปรแกรมทางสถิติอีกตัวที่ดังพอๆกับ SPLUS ก็คือ SPSS อาจดังกว่าด้วยซ้ำ

โปรแกรมที่แนะนำวันนี้คือ PSPP ซึ่งเป็นโปรแกรมแบบ open source ที่ตั้งใจทำเพื่อใช้งานแทน SPSS ดังนั้นคนที่ใช้ SPSS อยู่แล้วก็คงเริ่มใช้ PSPP ได้เลย

13 August 2008

พิมพ์โปสเตอร์แบบงบน้อยๆ



PosteRazor เป็นโปรแกรมที่จะขยายและแบ่งรูปภาพที่เราต้องการออกเป็นหลายๆส่วน ซึ่งแต่ละส่วนจะพอดีกับหนึ่งหน้ากระดาษ แบ่งเป็นหกส่วนก็พิมพ์ออกมาหกแผ่น แล้วก็เราไปต่อรวมกันเป็นแผ่นใหญ่ ใครลองทำ wallpaper ราคาถูกให้กับห้องใหม่ก็เอามาอวดกันได้นะครับ

12 August 2008

ISO Recorder



ISO Recorder ช่วยในการเขียนไฟล์ CD (หรือ dvd) image ลง CD

ปกติืโปรแกรมที่แถมมากับ cd writer ก็สามารถเขียนไฟล์ image ได้อยู่แล้ว แต่ก็มีบางโปรแกรมที่ทำไม่ได้ เช่นที่มากับ drive ของ HP หรือบางโปรแกรมทำได้ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ถ้าใครเจอแบบนี้ก็ลง ISO Recoder ก็จะช่วยได้

วิธีใช้ก็ง่าย กดคลิกขวาที่ไฟล์ ISO แล้วเลือก "Copy to CD" ซึ่งก็จะเปิดหน้าต่างขึ้นมาอย่างที่เห็นในรูป ใส่แผ่นให้เรียบร้อยแล้วก็กด finish แล้วหลบไปกินกาแฟ กลับมาก็เสร็จพอดี

10 August 2008

เกมส์ยกน้ำหนัก ฉลองเหรียญทองแรกของไทย


เย้

ไม่ใช่ free software แต่ก็เล่นฟรี ถือว่าผ่านละกัน

09 August 2008

ผสมภาพถ่ายกับ SketchUp Match Photo ... เมื่อไหร่บ้านจะเสร็จซะทีเนี่ย



ย้ายไปอยู่ที่ busy.in.th แล้วครับ





ตอนนี้กำลังแต่งบ้าน(เล็กๆ)อยู่ครับ ช่างกำลังทำห้องน้ำ(เล็กๆ)อยู่ เขาถามว่าจะติดกระจกยังไง ผมก็คิดว่า เอาแล้วสิ ไม่รู้เหมือนกัน ก็เลยขอเวลามาคิดก่อน แล้วก็วิ่งไปเอากล้องมาถ่ายรูปห้องน้ำก่อน แล้วก็เอาไปลงคอมพ์ ส่งรูปเข้า SketchUp เพื่อใช้ความสามารถในการ "Match Photo" ที่ทำให้ผมสามารถสร้างโมเดลของห้องน้ำได้ตามความเป็นจริงโดยไม่ต้องไปวัด แล้วผมก็จะได้ลองออกแบบกระจกแบบต่างๆไปลองติดดูว่าชอบแบบใหนที่สุด





ขั้นแรกก็ถ่ายรูปห้องน้ำมาก่อน ถ่ายมาหลายๆมุม จะได้เลือกได้ทีหลัง ไม่ต้องกลับไปถ่ายใหม่



จากนั้นก็เปิด SketchUp ซะ แล้วก็ไปที่ Tools->Match Photo เพื่อเปิดหน้าต่างของ Match Photo แล้วก็คลิกที่เครื่องหมายบวกในหน้าต่างนั้นเพื่อโหลดรูปที่เราถ่ายเข้ามา

จะเห็นว่ามีเส้นสีแดงกับเขียวอยู่ หน้าที่ของเราก็คือการลากเส้นพวกนี้ให้ตรงกับเส้นตรงในรูปของเรา ต้องอย่าลืมว่าเส้นพวกนี้ (ที่สีเดียวกัน) จริงๆแล้วจะขนานกัน แต่เนื่องจากเรามองในมุมแบบ perspective ก็เลยเห็นเหมือนว่ามันตัดกันที่อินฟืนืตี ก็ลากๆมันจนกว่าจะมีมิติและ perspective ตรงกับรูปของเรา




เนื่องจากภาพนี้เป็นภาพ indoor ก็เลยต้องสลับให้เส้นเขียวอยู่ซึกซ้ายของจอ เส้นแดงอยู่ซีกขวา (ถ้าเป็นภาพ outdoor ก็ไม่ต้องสลับ) หลังจากลากๆอยู่พักใหญ่ก็ได้อย่างที่เห็น



จากนั้นลองวางรูปสี่เหลียมโดยใช้เครื่องมือ rectangle ของ SketchUp ดูว่าสี่เหลื่ยมที่ได้มีมิติและ perspective ตรงกับรูปภาพหรือเปล่า ถ้ายังไม่ตรงก็กลับไปทำขั้นที่แล้วใหม่ ... ตอนลากๆไม่ยากหรอก ยากตรงให้มันออกมาตรงกับรูปนี่แหละ



ถ้าผ่านมาถึงนั้นนี้ได้ ต่อไปก็ไม่ยากแล้ว จะไปพักกินน้ำ ดูโอลิมปิกก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาวาง model ที่เหลือให้ครบ ในรูปจะเห็นว่าผมใส่ model อ่างล้างหน้าไปด้วย



ตอนนี้จะเห็นว่า model ของเราบังรูปเกือบมิด ทำให้ไม่เห็นก็อกน้ำหรือฝักบัว ถ้าใครขยันจะลองออกแบบโมเดลของก็อกน้ำกับฝักบัวก็ได้ แต่ผมไม่สามารถขนาดนั้น ผมเลยใช้อีกวิธีโดยทำให้ model ของเรามี texture เหมือนภาพข้างหลังเสีย

ขั้นแรกก็เลือก model ก่อน แล้วก็ไปที่หน้าต่าง Match Photo แล้วก็กดที่ Project Texture from Photo ที่เห็นในวงกลม




ก็จะได้แบบนี้ ลองคลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่นะครับ



คราวนี้ก็ลองออกแบบโมเดลกระจกไปติดที่ผนังดู ผมลองอยู่สองสามแบบ แต่สุดท้ายก็เลือกแบบเรียบๆแคบๆแบบนี้แหละ



ถ้าไม่มั่นใจจะลองหมุนไปดูมุมอื่นๆก็ได้ เพราะทุกอย่างเป็นโมเดลอยู่แล้ว สาเหตุที่ผมทำโมเดลอ่างล้างหน้าด้วยก็เพื่อจะได้ดูจากมุมอื่นๆได้ด้วย

เมื่อพอใจแล้วก็วัดขนาดให้แน่อีกที ของผมได้ที่ 35x80ซม แล้วก็เอาไปให้ช่างดู ให้เขาไปสั่งตัดกระจกได้เลย

08 August 2008

MultiMonitor TaskBar


ที่โต๊ะทำงานผมจะมีจอสองจอต่อเข้าคอมพ์ฯ ซึ่งทำให้ทำงานสะดวกชึ้นมาก แต่จุดที่น่ารำคาญคือ Windows จะยอมให้มี taskbar ได้แค่บนหน้าจอเดียว เพราะงั้นเวลาที่จะเปลียนโฟกัสแต่ละทีก็ต้องลากเม้าส์กันไกลเลย

สงสัยว่าคนเขียนโปรแกรม MultiMonitor TaskBar คงรำคาญพอๆกัน เขาก็เลยเชียนโปรแกรมเพื่อให้ taskbar แสดงอยู่บนทุกๆจอ ใครขี้รำคาญแบบผมก็ลองเอาไปใช้ดูนะครับ

Linux Application Checker

Linux AppChecker เป็นโปรแกรมของ Linux Foundation ที่ช่วยตรวจสอบว่าโปรแกรมที่เราเขียนใช้ได้กับ Linux distribution ใหนบ้าง

โปรแกรมที่พูดถึงนี้คือโปรแกรมที่คอมไพล์เป็นไบนารีแล้ว เพราะถ้าเป็น source code คงไม่มีปัญหาเรื่อง compatibility มากนัก แต่โปรแกรมที่คอมไพล์แล้วเนี่ย จะมีปัญหาถ้า shared library ที่ใช้คอมไพล์กับที่มีอยู่ในเครื่องที่เอาโปรแกรมนั้นไปรันไม่ตรงกัน เพราะฉนั้นเวลาเราจะให้ไบนารี เราจะต้องทำไบนารีสำหรับ Redhat สำหรับ SUSE ฯลฯ แยกกันต่างหาก

LSB ก็เลยถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยการกำหนดมาตรฐานให้ Linux แต่ละ distribution มีความ compatible มากขึ้น โปรแกรม AppChecker ก็จะมาเป็นเครื่องช่วยเพื่อดูว่าโปรแกรมที่เราเขียนและคอมไพล์แล้ว compat กับ distribution ใหนบ้าง

ข่าวจาก Linux.com

07 August 2008

Firefox เวอร์ชั่นทดลอง ใช้ QT toolkit





Nokia และ Mozilla ร่วมมือกันพอร์ท Firefox มาใช้ QT toolkit และให้ลองโหลดเวอร์ชั่นทดลองแล้ว ใครลองแล้วได้ว่าไงบอกด้วย

หวังว่าคงไม่ล่มไปอีกเหมือนคราวก่อน ถ้าเสร็จจริงแฟนๆ KDE คงยิ้มได้เสียที

ช่าวจาก OSnews

05 August 2008

Market Share: ผู้ใช้FF เพิ่มขึ้นอีก 2%

จากการรายงานล่าสุดโดย NetApplications พบว่ามีผู้ใช้ IE ประมาณ 69.88% ซึ่งลดลงประมาณ 3% จากการรายงานก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ใช้ Firefox เพื่มขึ้นประมาณ 2% จากเดิม เป็น 20.68%

ที่มา tgdaily.com

KiCad - ออกแบบแผงวงจรครบสูตร



Kicad เป็นโปรแกรมออกแบบแผงวงจร PCB ที่ใช้ได้บน Windows, Linux และแมคด้วย หลังจากเราออกแบบแผ่น PCB เรียบร้อยแล้ว Kicad สามารถจะสร้างไฟล์ Gerber ซึ่งเป็นไฟล์มาตรฐานที่บริษัทที่รับทำแผ่น PCB ต้องรู้จัก วันก่อนผมทำแผงวงจรสำหรับ MAX232 เพื่อเอาไว้ต่อ PIC เข้า serial port บนคอมพิวเตอร์ (แต่ไม่ได้สั่งทำเพราะวงจรเล็กๆแค่นี้ต่อขาตรงๆเลยง่ายกว่า ไม่ต้องเสียตังค์ด้วย) มาดูขั้นตอนคร่าวๆของการออกแบบ PCB บน Kicad กันดีกว่า






พอเปิดโปรแกรมมาก็จะเป็นแบบนี้ ในแถบด้านซ้ายคือไฟล์ทั้งหมดในโปรเจกต์ของเรา การออกแบบแผงวงจรจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ ซึ่งแต่ละส่วนจะมีโปรแกรมย่อยให้ใช้งานเป็นของตนเอง หากดูที่ด้านขวาของหน้าต่างจะเห็นปุ่ม 4 ปุ่ม ซึ่งเป็นปุ่มที่ไว้เรียกใช้โปรแกรมย่อยที่บอกไว้







โปรแกรมย่อยแรกมีไว้สำหรับวาดวงจร จริงๆแล้วเราสามารถข้ามส่วนนี้ แล้วไปส่วนที่ใช้ออกแบบแผงวงจรเลยก็ได้ แต่การที่เราวาดวงจรในส่วนนี้ก่อนจะทำให้ Kicad รู้ว่าในวงจรเรามีชิ้นส่วนอะไรบ้าง และต่อกันยังไง พอเราไปออกแบบแผงวงจร Kicad ก็จะบอกเราได้ว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า ลืมต่อขาใหนหรือเปล่า อะไรแบบนั้น





ขั้นต่อมาก็กำหนด footprint ให้กับชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิคที่ในวงจรที่เราออกแบบไว้ในขั้นแรก footprint คือตัวที่บอก Kicad ว่าชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิคแต่ละชิ้นหน้าตาเป็นยังไง กว้างยาวเท่าไหร่ ขาห่างกันกี่มม. เป็นต้น

Kicad มี footprint ให้เราเลือกใช้เป็นร้อยๆชิ้น และยังสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้ด้วย แต่ถ้าเราหา footprint ที่เราต้องการจริงๆไม่ได้ เราก็สามาระสร้างขึ้นมาเองได้โดยใช้ footprint editor ที่เป็นในรูป







ต่อมาเราก็สามารถออบแบบแผงวงจรได้ละ ถ้าหากเราได้ทำขั้นตอนทั้งสองก่อนหน้านี้มาแล้ว Kicad ก็จะเอา footprint ที่เราเลือกในขั้นก่อนหน้านี้มาวางไว้ให้แล้ว เราก็เลื่อน footprint แต่ละอันมาไว้ในตำแหน่งที่เราต้องการ แล้วก็วาดลายทองแดงต่อขาตามที่เราออกแบบ

สำหรับวงจรในรูปเป็นวงจรที่มีลายทองแดงแค่ชั้น (layer) เดียว แต่ถ้าเราต้องการใช้หลายชั้น Kicad ก็ทำได้ โดยสามารถทำได้มากสุดถึง 16 ชั้น แต่สำหรับมือสมัครเล่นอย่างเราๆก็ไม่ควรทำมากกว่าสองชั้น เพราะจะได้ไม่แพงมากเวลาเอาส่งบริษัททำแผ่นปรินต์









ลองดูแผงวงจรของเราแบบ 3D ก็ได้ ไม่มีประโยช์เท่าไหร่ แต่ก็ทำให้โปรแกรมดูดี



หลังจากนั้นก็ทำการ export เป็น Gerber file โดยไปที่ File->Plot โดยขั้นแรกเราต้องเลือก layer ที่เราต้องการ สมมุติว่า PCB เรามีสอง layer เราก็ต้องเลือก 5 อย่าง
- Copper คือแผงวงจรด้านล่าง
- Component คือแผงวงจรด้านบน
- Mask Copp คือ Masking สำหรับแผงวงจรด้านล่าง
- Mask Cmp คือ Masking สำหรับแผงวงจรด้านบน
- SilkS Cmp คือตัวหนังสือต่างๆที่เราต้องการพิมพ์ลงบนแผงวงจรด้านบน

จากนั้นเราก็เลือก plot format ให้เป็น Gerber เสีย แล้วก็สั่ง plot ได้ แต่ยังไม่เสร็จนะ เราก็ต้องทำ drill file ด้วย ก็กด "create drill file" ก็จะมีหน้าต่างอีกหน้าต่างเปิดขึ้นมา แต่ค่าที่เราต้องใส่ในหน้าต่างนี้ก็ขึ้นกับว่าเราจะให้บริษัทใหนทำแผ่นวงจรให้เรา ต้องถามค่าพวกนี้จากบริษัทนั้น แต่บริษัทในเมืองไทยที่ผมเคยใช้เนี่ย เราไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย กด execute ได้เลย






ชั้นสุดท้ายก็เปิด GERBER viewer ขึ้นมาดูว่าที่เรา export ออกมาถูกต้องหรือเปล่า ถ้าเรียบร้อยดีก็ส่งโรงงานได้เลย




























01 August 2008

UltimateDefrag Freeware Edition



UltimateDefrag เป็นโปรแกรม defrag ที่น่าสนใจอีกตัว แต่ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมไม่เคยใช้โปรแกรมตัวนี้มาก่อน ปกติจะใช้ JkDegrag แต่เท่าที่อ่านดูโปรแกรมตัวนี้มีความสามารถคล้ายกับ JkDefrag คือนอกจากจะจัดเรียงไฟล์แล้ว ยังให้ความสำคัญกับชนิดของไฟล์ด้วย ไฟล์ใหนที่ใช้บ่อยๆก็เอามาใว้ที่ขอบๆของดิสต์เพราะจะได้เข้าถึงและอ่านข้อมูลได้เร็วกว่า

GUI ของโปรแกรมนี้ก็ดูดีกว่า JkDefrag ด้วย น่าจะใช้ง่ายกว่า ใครสนใจก็ลองดูนะครับ